แหล่งที่มาของรายได้ 8 ประเภท รู้ก่อนเสียภาษีให้ถูกต้อง | MoneySummary

3/16/2025

แหล่งที่มาของรายได้ทั้ง 8 ประเภท พร้อมวิธีคำนวณภาษีให้ถูกต้อง

แหล่งที่มาของรายได้ทั้ง 8 ประเภท พร้อมวิธีคำนวณภาษีให้ถูกต้อง
แหล่งที่มาของรายได้ทั้ง 8 ประเภท พร้อมวิธีคำนวณภาษีให้ถูกต้อง

เนื้อหาในบทความนี้

(คลิกเพื่ออ่านพาร์ทที่สนใจได้เลย!!)

ทำไมต้องรู้จักแหล่งรายได้ทั้ง 8

ทุกคนรู้มั้ยคะว่าอาชีพแต่ละอาชีพคำนวณภาษีแตกต่างกัน

ซึ่งทางกรมสรรพากรเนี่ยได้แบ่งประเภทรายได้ของบุคคลเพื่อง่ายต่อการคำนวณภาษี เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมในการจัดเก็บภาษีแต่ละบุคคลนั่นเอง เพราะแต่ละอาชีพมีต้นทุนไม่เท่ากัน!

บางอาชีพมีต้นทุนสูง เช่น คนที่ทำธุรกิจก่อสร้าง ต้องซื้ออุปกรณ์เยอะ 💰 ดังนั้นเขาสามารถหักค่าใช้จ่ายจากรายได้ได้ 60%

บางอาชีพมีต้นทุนต่ำกว่า เช่น คนให้เช่ารถ 🚗 อาจมีค่าซ่อมบ้างแต่ไม่เยอะ เลยหักค่าใช้จ่ายได้ 30%

บางรายได้แทบไม่มีต้นทุนเลย เช่น ดอกเบี้ยจากเงินฝาก 💵 หรือเงินปันผลจากหุ้น 📈 แบบนี้จะ หักค่าใช้จ่ายไม่ได้เลย

ถ้าไม่มีการแบ่งประเภท และให้ทุกคนหักค่าใช้จ่ายเท่ากัน คนที่มีต้นทุนเยอะก็จะเสียภาษีหนักกว่าคนที่แทบไม่มีต้นทุนเลย ซึ่งจะไม่ยุติธรรม 🚦

ดังนั้นเราไปดูกันเลยดีกว่าว่า แหล่งที่มาของรายได้ทั้ง 8 ประเภท เนี่ย มีอะไรบ้าง

เงินได้พึงประเมิน 8 ประเภทเพื่อนำไปยื่นภาษี
เงินได้พึงประเมิน 8 ประเภทเพื่อนำไปยื่นภาษี

เงินได้ประเภทที่ 1: เงินได้จากการจ้างแรงงาน

เงินได้ประเภทนี้รวมถึงค่าจ้าง เงินเดือน โบนัส ค่าล่วงเวลา และผลตอบแทนอื่น ๆ ที่ได้รับจากการทำงานเป็นลูกจ้าง การคำนวณภาษีจะใช้ฐานเงินได้สุทธิหลังหักค่าใช้จ่ายและค่าลดหย่อน จากนั้นนำไปคำนวณภาษีตามอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาแบบอัตราก้าวหน้า (Progressive Rate) ซึ่งเริ่มต้นที่ 5% และสูงสุดที่ 35%

สามารถอ่านบทความที่เกี่ยวกับการหักภาษีแบบขั้นบันไดได้ที่นี่

เงินได้ประเภทที่ 2: เงินได้จากหน้าที่หรือตำแหน่งงานที่ไม่ใช่ลูกจ้าง

เงินได้ประเภทนี้รวมถึงค่านายหน้า ค่าธรรมเนียมที่ปรึกษา หรือค่าตอบแทนที่ได้รับจากการดำเนินงานในฐานะกรรมการบริษัทหรือผู้เชี่ยวชาญอิสระ โดยการคำนวณภาษีสามารถหักค่าใช้จ่ายตามที่กฎหมายกำหนดและใช้วิธีคิดภาษีเช่นเดียวกับเงินได้ประเภทที่ 1

เงินได้ประเภทที่ 3: เงินได้จากค่าวิชาชีพอิสระ

เงินได้ประเภทนี้เกิดจากการประกอบวิชาชีพเฉพาะ เช่น แพทย์ วิศวกร ทนายความ นักบัญชี หรือสถาปนิก โดยสามารถหักค่าใช้จ่ายตามสัดส่วนที่กำหนดไว้ในกฎหมาย (เช่น 30%-60% ขึ้นอยู่กับประเภทของอาชีพ) แล้วนำรายได้สุทธิมาคำนวณภาษีตามอัตราก้าวหน้า

เงินได้ประเภทที่ 4: เงินได้จากค่าลิขสิทธิ์และทรัพย์สินทางปัญญา

รายได้ประเภทนี้เกิดจากการให้เช่าทรัพย์สินทางปัญญา เช่น ค่าลิขสิทธิ์ ค่าสิทธิบัตร หรือค่าตอบแทนจากการใช้ทรัพย์สินทางปัญญาอื่น ๆ โดยหักค่าใช้จ่ายเป็นอัตราคงที่ตามที่กฎหมายกำหนด ก่อนนำไปคำนวณภาษีตามอัตราก้าวหน้า

เงินได้ประเภทที่ 5: เงินได้จากการให้เช่าทรัพย์สิน

รายได้ประเภทนี้เกิดจากการให้เช่าอสังหาริมทรัพย์ เช่น บ้าน คอนโด อาคาร หรือที่ดิน รวมถึงการให้เช่าทรัพย์สินอื่น ๆ เช่น รถยนต์หรือเครื่องจักร โดยสามารถหักค่าใช้จ่ายตามอัตราที่กฎหมายกำหนด เช่น ค่าเสื่อมราคา และนำรายได้สุทธิมาคำนวณภาษีตามอัตราก้าวหน้า

เงินได้ประเภทที่ 6: เงินได้จากการรับเหมา

เงินได้จากการรับเหมาจะเกิดขึ้นเมื่อบุคคลธรรมดาได้รับค่าจ้างจากงานก่อสร้างหรืองานที่ต้องใช้วัตถุดิบและแรงงานร่วมกัน ซึ่งค่าใช้จ่ายสามารถหักตามอัตราคงที่ที่กำหนดไว้ในกฎหมาย (เช่น 60%-70% ของรายได้) จากนั้นนำรายได้สุทธิมาคำนวณภาษีตามอัตราก้าวหน้า

เงินได้ประเภทที่ 7: เงินได้จากธุรกิจ การพาณิชย์ และอุตสาหกรรม

รายได้ประเภทนี้ครอบคลุมการทำธุรกิจทุกประเภทที่ไม่ได้อยู่ในหมวดอื่น ๆ เช่น ร้านค้าปลีก ร้านอาหาร การค้าส่ง และโรงงานผลิตสินค้า ซึ่งสามารถหักค่าใช้จ่ายได้ตามอัตราจริงหรืออัตราที่กฎหมายกำหนด (เช่น 60%-85% ขึ้นอยู่กับประเภทธุรกิจ) แล้วนำรายได้สุทธิมาคำนวณภาษี

เงินได้ประเภทที่ 8: เงินได้อื่น ๆ ที่ไม่ได้อยู่ในประเภทข้างต้น

เงินได้ประเภทนี้รวมถึงเงินรางวัล เงินปันผลจากกองทุนรวม การขายหุ้น การขายอสังหาริมทรัพย์ และรายได้อื่น ๆ ที่ไม่ได้ถูกจัดอยู่ในประเภท 1-7 การคำนวณภาษีขึ้นอยู่กับลักษณะของรายได้ บางกรณีอาจถูกหักภาษี ณ ที่จ่ายในอัตราคงที่ เช่น กำไรจากการขายหุ้นอาจถูกหักภาษี ณ ที่จ่าย 10% โดยไม่ต้องนำมาคำนวณรวมกับเงินได้ประเภทอื่น

ตัวอย่างการแบ่งประเภทเงินได้

ตัวอย่างการแบ่งประเภทเงินได้และการยื่นเงินได้พึงประเมิน
ตัวอย่างการแบ่งประเภทเงินได้และการยื่นเงินได้พึงประเมิน

จากตัวอย่าง จะเห็นได้ว่า เจน คนขยัน มีรายได้ทั้งหมด 6 ช่องทางคือ

  1. งานประจำ

  2. ฟรีแลนซ์กับบริษัทอื่น

  3. ฟรีแลนซ์กับ platform fastwork

  4. ขายโกโก้ที่ตลาดนัด

  5. ขาย digital product ใน esty

  6. ทำ affiliate ใน TikTok

ดังนั้นเราต้องนำรายได้ทั้ง 6 ประเภทนี้มายื่นประเภทเงินได้ตามแหล่งที่มาของรายได้ ดังนี้

ข้อ 1 รายได้จากงานประจำ (เงินเดือน) → เงินได้ประเภทที่ 1

💼 แหล่งที่มา: งานประจำที่บริษัท

📜 ต้องยื่นภาษีแบบไหน?

• บริษัทจะหักภาษี ณ ที่จ่ายทุกเดือน

• ได้รับ หนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย (50 ทวิ)

• รายได้ส่วนนี้ต้องนำไปยื่นภาษีตอนสิ้นปี

ข้อ 2 - 3 รายได้จากฟรีแลนซ์ (รับงานจากบริษัทอื่นและ Fastwork) → เงินได้ประเภทที่ 2 หรือ 3

🖥️ แหล่งที่มา: งานฟรีแลนซ์ที่รับจากบริษัท / Fastwork

📜 ต้องยื่นภาษีแบบไหน?

• บริษัทที่จ้างจะหักภาษี ณ ที่จ่าย (ปกติ 3%) และออก หนังสือรับรองหักภาษี ณ ที่จ่าย (50 ทวิ)

• ในที่นี้เจนทำงานวิชาชีพเฉพาะ เช่น ออกแบบ โปรแกรมเมอร์ ฯลฯ จัดอยู่ใน เงินได้ประเภทที่ 3

• แต่หากเป็นงานทั่วไป เช่น แปลภาษา ตอบแชท อาจอยู่ใน เงินได้ประเภทที่ 2

• ต้องนำรายได้ทั้งหมดมารวมคำนวณภาษีสิ้นปี

📌 การลดภาระภาษี

✅ เลือกหักค่าใช้จ่ายแบบ เหมา (30% - 60% ตามอาชีพ) หรือหักแบบ ตามจริง (ถ้ามีหลักฐาน)

ข้อ 4 รายได้จากการขายโกโก้ตลาดนัด → เงินได้ประเภทที่ 7

🛍️ แหล่งที่มา: รายได้จากการขายของที่ตลาดนัด

📜 ต้องยื่นภาษีแบบไหน?

• จัดเป็น เงินได้จากธุรกิจ / การพาณิชย์ (เงินได้ประเภทที่ 7)

• สามารถหักค่าใช้จ่ายแบบเหมาได้ 60% ของรายได้ หรือเลือกหักตามจริง (ถ้ามีหลักฐานค่าใช้จ่าย)

• หากรายได้ไม่เกิน 1.8 ล้านบาท/ปี ไม่ต้องจด VAT

• ควรรวบรวมรายรับ-รายจ่ายไว้เป็นหลักฐาน

📌 แนะนำ

✅ หากเป็นธุรกิจที่มีรายได้สูง ควรพิจารณาจดทะเบียนพาณิชย์หรือเปิดบริษัท

รายได้จากการขาย Digital Product บน Etsy → เงินได้ประเภทที่ 8

🎨 แหล่งที่มา: ขายไฟล์ดิจิทัล เช่น Template, รูปภาพ, ฟอนต์

📜 ต้องยื่นภาษีแบบไหน?

• ถือเป็น เงินได้อื่น ๆ ที่ไม่ได้อยู่ในประเภทอื่น (ประเภทที่ 8)

• หักค่าใช้จ่ายแบบเหมาได้ 60% หรือหักตามจริง

• หาก Etsy หักภาษี ณ ที่จ่าย สามารถขอคืนหรือเครดิตภาษีได้

📌 ข้อควรรู้

✅ รายได้นี้ถือเป็น รายได้จากต่างประเทศ ซึ่งต้องดูว่าคุณนำเงินเข้ามาไทยในปีภาษีเดียวกันหรือไม่ เพื่อวางแผนภาษีให้ถูกต้อง

รายได้จาก Affiliate (TikTok, Shopee) → เงินได้ประเภทที่ 8

📱 แหล่งที่มา: รายได้จากค่าคอมมิชชั่นของการทำ Affiliate

📜 ต้องยื่นภาษีแบบไหน?

• ถือเป็น เงินได้ประเภทที่ 8 (เงินได้อื่น ๆ)

• หักค่าใช้จ่ายแบบเหมาได้ 60%

• บางแพลตฟอร์มอาจมีหักภาษี ณ ที่จ่าย ต้องขอเอกสารมายื่นภาษีปลายปี

📌 ข้อควรรู้

✅ ถ้าเป็น รายได้จากต่างประเทศ (TikTok Global) อาจเข้าข่ายภาษีรายได้ต่างประเทศ (ต้องดูเงื่อนไขการนำเงินเข้าประเทศ)

สรุปเจนต้องยื่นเงินได้ทั้งหมด 4 ประเภท

  1. งานประจำ > เงินได้ประเภท 1: เงินได้จากการจ้างแรงงาน

  2. ฟรีแลนซ์กับบริษัทอื่น > เงินได้ประเภทที่ 3: เงินได้จากค่าวิชาชีพอิสระ

  3. ฟรีแลนซ์กับ platform fastwork > เงินได้ประเภทที่ 3: เงินได้จากค่าวิชาชีพอิสระ

  4. ขายโกโก้ที่ตลาดนัด > เงินได้ประเภทที่ 7: เงินได้จากธุรกิจ การพาณิชย์ และอุตสาหกรรม

  5. ขาย digital product ใน esty > เงินได้ประเภทที่ 8: เงินได้อื่น ๆ ที่ไม่ได้อยู่ในประเภทข้างต้น

  6. ทำ affiliate ใน TikTok > เงินได้ประเภทที่ 8: เงินได้อื่น ๆ ที่ไม่ได้อยู่ในประเภทข้างต้น

ทุกแหล่งรายได้ของเจนต้องนำมายื่นรวมกันตอนสิ้นปี โดยกรอกแบบฟอร์ม ภ.ง.ด. 90 (เพราะมีรายได้มากกว่าแค่เงินเดือน)

ดูวิธีการเสียภาษีอย่างง่ายได้ที่นี่

1. รวมรายได้ทุกประเภท

2. เลือกหักค่าใช้จ่ายตามประเภทของรายได้

3. ใช้ค่าลดหย่อนต่าง ๆ เช่น ประกันชีวิต, กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ, SSF/RMF ฯลฯ

4. คำนวณภาษีรวม และดูว่าต้องจ่ายเพิ่มหรือขอคืน

📌 หากมีการหักภาษี ณ ที่จ่ายไว้แล้ว สามารถนำไปใช้ลดภาษีที่ต้องจ่ายสิ้นปี หรือขอคืนภาษีได้