วิเคราะห์หุ้นกู้ SCG (SCC) 4 ปี ดอกเบี้ย 3.20% | คุ้มค่าน่าลงทุนหรือไม่?
2/27/2025
บทวิเคราะห์ หุ้นกู้ของ บริษัทปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) (SCC)
ครั้งที่ 1/2568 ครบกำหนดไถ่ถอนปี พ.ศ 2572


เนื้อหาในบทความนี้ (คลิกเพื่ออ่านพาร์ทที่สนใจได้เลย!!)
ข้อมูลพื้นฐานของหุ้นกู้ SCG รุ่น 1/2568
ข้อมูลพื้นฐานจาก Factsheet
อายุตราสาร : 4 ปี
อัตราดอกเบี้ยคงที่ : คงที่ 3.20% ต่อปี
งวดการชำระดอกเบี้ย : ทุก 3 เดือน
การไถ่ถอนก่อนกำหนด : ไม่มี
มูลค่าเสนอขายรวม : ไม่เกิน3,000 ล้านบาท
หลักประกัน/ผู้ค้ำประกัน : ไม่มี
ผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ : ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)
วัตถุประสงค์การใช้เงิน : นำไปชำระหนี้คืนหุ้นกู้เดิม (SCC254A)
อันดับความน่าเชื่อถือของหุ้นกู้
อันดับ A(tha)
แนวโน้ม “คงที่”
จัดอันดับเมื่อวันที่ 20 ม.ค 2568 โดย บจก.ทริสเรทติ้ง
รายละเอียดอื่น
เปิดจองสำหรับผู้ถือหุ้นกู้ SCC254A : วันที่ 3-7 มีนาคม พ.ศ. 2568
เปิดจองสำหรับผู้ถือหุ้นกู้ปัจจุบัน: วันที่ 25 - 27 มีนาคม พ.ศ. 2568
เปิดจองสำหรับผู้ลงทุนประชาชนทั่วไป: วันที่ 28- 31 มีนาคม พ.ศ. 2568
วันออกหุ้นกู้ : 1 เมษายน 2568
วันครบกำหนดไถ่ถอน : 1 เมษายน 2572
ประเภทการเสนอขาย : บุคคลทั่วไป
ผู้จัดจำหน่าย :ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน), ธนาคาร กรุงเทพ จำกัด (มหาชน), ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน), ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน),ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)
ผลตอบแทนของตราสารรุ่นอื่นในตลาด : 3.23% (เปรียบเทียบกับหุ้นกู้รุ่นอื่นที่อายุและอัตราผลตอบแทนเท่ากัน)
คำนวณดอกเบี้ยหุ้นกู้ SCG รุ่น 1/2568
ความเสี่ยง
ความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น
ความเสี่ยงด้านธุรกิจและเศรษฐกิจ
บริษัทมีแผนขยายธุรกิจไปในด้านพลังงานสะอาด (Clean Energy) และการลงทุนระหว่างประเทศ ซึ่งอาจส่งผลต่อกระแสเงินสดและผลประกอบการ
ความผันผวนทางเศรษฐกิจและสถานการณ์ภูมิรัฐศาสตร์อาจส่งผลต่อธุรกิจของ SCG
ความเสี่ยงด้านการเงิน
ไม่มีหลักประกัน ทำให้ความเสี่ยงสูงขึ้นหากบริษัทมีปัญหาทางการเงิน
บริษัทสามารถก่อหนี้เพิ่มเติมได้โดยไม่มีข้อจำกัด (ไม่มี Financial Covenants)
ความเสี่ยงด้านตลาด
ราคาหุ้นกู้อาจลดลงหากอัตราดอกเบี้ยในตลาดเพิ่มขึ้น
หากต้องการขายหุ้นกู้ก่อนครบกำหนด อาจขายได้ราคาต่ำกว่าที่ซื้อ
ความเสี่ยงด้านเครดิตของผู้ออกหุ้นกู้
หากอันดับความน่าเชื่อถือลดลง ราคาหุ้นกู้อาจปรับตัวลง และต้นทุนการกู้ยืมของบริษัทอาจเพิ่มขึ้น


ระดับความเสี่ยง
ระดับความเสี่ยง : 3
บทวิเคราะห์ (เป็นเพียงการวิเคราะห์ส่วนตัวเท่านั้น)
เราจะวิเคราะห์งบการเงินของบริษัทกันว่าเป็นอย่างไรบ้าง
จากข้อมูลงบแสดงฐานะการเงินของบริษัท 3 ปี ย้อนหลัง พบว่า บริษัทมีสินทรัพย์รวมลดลงในปี 2566 อยู่ที่ ประมาณ 893,601 ล้านบาท และในไตรมาสที่ 3 ในปี 2567 มีสินทรัพย์รวมอยู่ที่ 867,046 ล้านบาท ซึ่งเห็นได้ชัดว่ามีการลดลงอย่างต่อเนื่อง


บริษัทมีหนี้สินรวมคงที่ในปี 2566 อยู่ที่ 452,004 ล้านบาท และส่วนของผู้ถือหุ้นลดลงเล็กน้อย
ซึ่งจากการวิเคราะห์คาดว่าที่สินทรัพย์และส่วนของผู้ถือหุ้นลดลงนั้น อาจจะเป็นผลจากการลงทุนที่ลดลงหรือบริษัทครบกำหนดชำระเงินทำให้มีหนี้สินเพิ่มขึ้นเล็กน้อย
งบกำไรขาดทุนของบริษัทในปี 2565 และ 2566 นั้น มีรายได้ลดลง 9.4% ซึ่งไม่มีนัยยะสำคัญเท่าไรนัก แต่ในเดือน ก.ย 2567 นั้น จะเห็นได้ว่าค่าใช้จ่ายรวมลดลงก็จริง แต่รายได้ก็ลดลงอย่างมากเช่นกัน ซึ่งส่งผลให้มี EBITDA ลดลงอย่ามีนัยยะสำคัญ
และกำไรสำหรับงวดที่ลดลงอย่างมาก คาดการณ์ว่าอาจจะมาจากการที่ครบกำหนดจ่ายดอกเบี้ยสถาบันการเงิน
ดอกเบี้ยหุ้นกู้ที่ครบกำหนดต่างๆ จะเห็นสัดส่วนภาระหนี้ตามตารางด้านล่างนี้


จากงบกระแสเงินสดจะเห็นได้ว่ากระแสเงินดจากการดำเนินลดลงจาก 29,719 ล้านบาทในปี 2565 ลดลงมาอยู่ที่ประมาณ 15,237 ล้านบาท
ซึ่งแสดงให้เห็นว่าบริษัทได้รับกระแสเงินสดลดลง อีกทั้งกระแสเเงินสดจากการลงทุนติดลบอย่างต่อเนื่องทำให้คาดการณ์ได้ปัจจุบันบริษัทได้มีการลงทุนเพิ่มขึ้น
และกระแสเงินสดจากการจัดหาเงินได้มีการชำระหนี้ออกไปในปี 2567 ทำให้กระแสเงินสดลดลงซึ่งสอดคล้องกับการกระแสเงินจากการดำเนินงานนั่นเอง
สภาพคล่อง
Current Ratio (อัตราส่วนสภาพคล่อง): 0.8 (ต่ำกว่า 1 แสดงว่าสภาพคล่องอาจไม่ดีนัก)
Cash Cycle (รอบหมุนเงินสด): 82 วัน (เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า)
ICR (ความสามารถจ่ายดอกเบี้ย): 3.8 (ลดลงจากปี 2565 ที่ 4.2 แต่ยังอยู่ในระดับพอรับได้)
หนี้สิน
D/E Ratio (หนี้สินรวมต่อทุน): 1.1 (ค่อนข้างสูง)
IBD/EBITDA (หนี้สินดอกเบี้ยต่อ EBITDA): 7.2 (สูงขึ้นจากปี 2565 ที่ 6.2)
DSCR (ความสามารถชำระหนี้ระยะยาว): 0.3 (ต่ำมาก)
ผลประกอบการ
EBIT Margin: 4.3% (ลดลงจากปี 2565 ที่ 7.9%)
ROA (ผลตอบแทนจากสินทรัพย์): 2.1% (ลดลงจากปีก่อน)
ROE (ผลตอบแทนผู้ถือหุ้น): 4.4% (ลดลงจาก 9.5% ในปี 2565)


วิเคราะห์อัตราส่วนทางการเงินที่สำคัญ
ข้อดี-ข้อเสียของหุ้นกู้ SCG
✅ ข้อดี
เครดิตเรตติ้งที่ดี – หุ้นกู้นี้ได้รับการจัดอันดับ A (แนวโน้มคงที่) มีความน่าเชื่อถือสูง
มีตัวแทนผู้ถือหุ้นกู้ – ธนาคารกรุงศรีอยุธยาเป็นตัวแทนผู้ถือหุ้นกู้ ทำให้มีความมั่นใจเรื่องการติดตามสิทธิของผู้ลงทุน
เหมาะกับนักลงทุนที่สามารถรับความเสี่ยงต่่ำได้ – อายุหุ้นกู้ 4 ปี เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการรายได้สม่ำเสมอจากดอกเบี้ย
จ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือน – เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการกระแสเงินสดระหว่างการถือครอง
❌ ข้อพิจารณา
ผลตอบแทนอาจต่ำกว่าตราสารหนี้อื่นๆ– เมื่อเทียบกับตราสารหนี้ที่มีอายุและเรตติ้งเดียวกัน หุ้นกู้นี้ให้อัตราดอกเบี้ยต่ำกว่าเล็กน้อย
ไม่มีหลักประกัน – หุ้นกู้นี้เป็นตราสารหนี้ที่ไม่มีหลักประกัน ซึ่งหากบริษัทมีปัญหาด้านการเงิน อาจได้รับผลกระทบต่อการจ่ายเงินต้นและดอกเบี้ย
ตลาดรองอาจมีสภาพคล่องต่ำ – อาจขายหุ้นกู้ก่อนครบกำหนดได้ยาก หรืออาจได้ราคาต่ำกว่ามูลค่าที่ซื้อมา
หากคุณรับความเสี่ยงเหล่านี้ได้และต้องการรายรับที่มั่นคง การลงทุนในหุ้นกู้นี้ถือว่าน่าสนใจ
แต่หากคุณต้องการผลตอบแทนที่สูงกว่าหรือต้องการความยืดหยุ่นในการขายก่อนครบกำหนดอาจจะยังไม่ได้แนะนำให้ลงทุน
สรุป: ควรลงทุนในหุ้นกู้นี้หรือไม่?
✅ เหมาะกับนักลงทุนที่:
ต้องการรายได้จากดอกเบี้ยที่มั่นคง
รับความเสี่ยงได้ระดับปานกลาง
ไม่มีแผนจะขายหุ้นกู้ก่อนครบกำหนด
⚠️ อาจไม่เหมาะสำหรับ:
นักลงทุนที่ต้องการสภาพคล่องสูง (อาจขายยากในตลาดรอง)
นักลงทุนที่ต้องการผลตอบแทนสูงกว่าตลาด
นักลงทุนที่กังวลเกี่ยวกับความเสี่ยง เนื่องจากบริษัทไม่ได้กำหนด Financial Covenants อาจทำให้บริษัทมีภาระหนี้ที่สูงขึ้นและส่งผลกระทบไม่สามารถจ่ายดอกเบี้ยและเงินต้นได้ตามกำหนด
Finance
Simplifying finance for everyday workers and investors.
Contact us
moneysummary.io@gmail.com
"Please contact us by writing the email subject as 'Contact Moneysummary.io Website."
© 2025. All rights reserved.