การรวมหนี้คืออะไร? ทางออกสำหรับคนที่กำลังจะเป็นหนี้เสีย

3/9/2025

การรวมหนี้คืออะไร? ทางออกสำหรับคนที่กำลังจะเป็นหนี้เสีย

การรวมหนี้คืออะไร
การรวมหนี้คืออะไร

การรวมหนี้คืออะไร ทำไมต้องรวมหนี้

การรวมหนี้ (Debt Consolidation) เป็นการนำหนี้สินหลาย ๆ ก้อนมารวมกันเป็นหนี้ก้อนเดียว โดยปกติจะทำผ่านการขอสินเชื่อใหม่ที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำกว่าหนี้เดิม เพื่อให้ผู้กู้สามารถจัดการชำระหนี้ได้ง่ายขึ้น ลดภาระดอกเบี้ย และลดจำนวนงวดชำระหนี้ในแต่ละเดือน

การรวมหนี้จึงเป็นทางเลือกหนึ่งสำหรับผู้ที่มีภาระหนี้สินหลายบัญชี เช่น บัตรเครดิต สินเชื่อบุคคล หรือสินเชื่อรถยนต์ ซึ่งอาจทำให้เกิดภาระดอกเบี้ยสูงและยากต่อการบริหารจัดการ หากปล่อยไว้อาจส่งผลต่อเครดิตบูโร และทำให้เกิดเป็นหนี้เสียในภายหลังได้

ข้อดีของการรวมหนี้

  1. ลดอัตราดอกเบี้ยโดยรวม – หากเลือกสินเชื่อใหม่ที่มีดอกเบี้ยต่ำกว่าหนี้เดิม จะสามารถลดต้นทุนในการกู้ยืมได้

  2. ช่วยปรับโครงสร้างหนี้ – การรวมหนี้ช่วยให้สามารถปรับระยะเวลาการผ่อนชำระและเงื่อนไขของหนี้ให้เหมาะสมกับความสามารถทางการเงินของผู้กู้

  3. ลดภาระทางการเงินในระยะสั้น – การที่ยอดชำระต่อเดือนลดลงช่วยให้มีเงินเหลือสำหรับค่าใช้จ่ายอื่น ๆ

  4. บริหารจัดการหนี้ได้ง่ายขึ้น – จากที่ต้องจ่ายหนี้หลายบัญชี ก็สามารถรวมเป็นการจ่ายครั้งเดียวต่อเดือน ทำให้การติดตามและวางแผนทางการเงินสะดวกขึ้น

ข้อควรพิจารณาในการรวมหนี้

  1. อาจต้องใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน – สินเชื่อบางประเภท เช่น สินเชื่อบ้านแลกเงิน มักต้องใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน ซึ่งมีความเสี่ยงหากไม่สามารถชำระหนี้ได้

  2. อัตราดอกเบี้ยอาจไม่ถูกกว่าทุกกรณี – หากประวัติการเงินไม่ดี หรือมีภาระหนี้สูง สินเชื่อใหม่อาจไม่ได้มีอัตราดอกเบี้ยที่ดีกว่าหนี้เดิม

  3. อาจต้องเสียค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม – การปิดบัญชีหนี้เดิมก่อนกำหนดหรือขอสินเชื่อใหม่อาจมีค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม เช่น ค่าปิดหนี้ ค่าประกันสินเชื่อ หรือค่าธรรมเนียมการดำเนินการ

  4. เพิ่มระยะเวลาการเป็นหนี้ – แม้การรวมหนี้อาจช่วยลดค่างวดต่อเดือน แต่ก็อาจทำให้ต้องเป็นหนี้นานขึ้น ซึ่งอาจส่งผลให้จ่ายดอกเบี้ยรวมมากขึ้นในระยะยาว

gray high-rise building at night time
gray high-rise building at night time

แนวทางปฏิบัติในการขอรวมหนี้กับสถาบันการเงิน

หากต้องการรวมหนี้กับสถาบันการเงิน ควรดำเนินการตามขั้นตอนต่อไปนี้:

  1. วิเคราะห์สถานะหนี้ของตนเอง

    • ตรวจสอบยอดหนี้ที่มีอยู่ทั้งหมด รวมถึงอัตราดอกเบี้ยและเงื่อนไขการชำระเงิน

    • คำนวณว่าการรวมหนี้จะช่วยลดภาระทางการเงินได้จริงหรือไม่

  2. เปรียบเทียบตัวเลือกสินเชื่อรวมหนี้

    • ศึกษาเงื่อนไขของสินเชื่อรวมหนี้จากหลายธนาคารหรือสถาบันการเงิน

    • เปรียบเทียบอัตราดอกเบี้ย ระยะเวลาผ่อนชำระ และค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวข้อง

  3. เตรียมเอกสารที่จำเป็น

    • สำเนาบัตรประชาชน และทะเบียนบ้าน

    • สลิปเงินเดือนหรือหนังสือรับรองรายได้

    • รายการเดินบัญชีย้อนหลัง (Statement)

    • สำเนาหนี้สินจากเจ้าหนี้เดิม (ถ้ามี)

  4. ยื่นขอสินเชื่อรวมหนี้

    • ติดต่อธนาคารหรือสถาบันการเงินที่เลือก และยื่นคำขอสินเชื่อ

    • รอการพิจารณาอนุมัติ ซึ่งอาจใช้เวลาแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละสถาบัน

  5. บริหารจัดการหนี้ใหม่อย่างมีวินัย

    • เมื่อได้รับสินเชื่อรวมหนี้ ควรใช้เงินอย่างระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการก่อหนี้เพิ่ม

    • สร้างแผนการชำระหนี้ที่เหมาะสม และรักษาวินัยในการชำระเงินตรงเวลา

สรุปเกี่ยวกับการรวมหนี้

การรวมหนี้เป็นทางเลือกที่ช่วยให้การจัดการหนี้สินง่ายขึ้น และลดภาระดอกเบี้ย แต่ก็มีข้อเสียที่ควรพิจารณา เช่น ค่าธรรมเนียมที่อาจเกิดขึ้น และความเสี่ยงในการเป็นหนี้นานขึ้น

หากต้องการรวมหนี้ ควรศึกษาตัวเลือกต่าง ๆ ให้รอบคอบ เปรียบเทียบข้อเสนอจากสถาบันการเงิน และวางแผนทางการเงินให้ดีเพื่อให้การรวมหนี้เป็นประโยชน์สูงสุด