The Investment Universe | เลือกสินทรัพย์ที่เหมาะกับคุณ

The investment Universe จักรวาลการลงทุน สินทรัพย์แบบไหนที่ใช่เรา

ปัจจุบันการลงทุนที่หลากหลายและแต่ละแบบจะมีวิธีการลงทุน ผลตอบแทน ความเสี่ยงไม่เท่ากัน ซึ่งทางคุณวีระพล ได้ให้นิยามของการลงทุนเป็นจักรวาล โดยเรียกว่า “จักรวาลการลงทุน” และเปรียบเทียบจักรวาลแบ่งเป็น จักรวาลใหญ่ 3 จักรวาล ดังนี้

1. Know Universe จักรวาลที่เราพอรู้จัก

   • โดยจักรวาลนี้จะเป็นสินทรัพย์ที่ทุกคนรู้จัก

   • สามารถลงทุนได้ง่ายและมีสภาพคล่องที่ดี มีผลตอบแทนที่ไม่มากนัก

   • ตัวอย่างสินทรัพย์ในจักรวาลนี้ เช่น เงินสด, พันธบัตร, หุ้น,อสังงหาริมทรัพย์ เป็นต้น

2. Near Universe จักรวาลที่ไม่รู้จักแต่พอเข้าใจได้

   • ซึ่งสินทรัพย์ประเภทนี้อาจต้องเข้าไปศึกษาก่อนการลงทุน ตามข่าวแต่ละเทรนด์

   • ตัวอย่างสินทรัพย์ในจักรวาลนี้ เช่น กองทุนรวมจีน, กอทุนรวมเวียดนาม, หุ้นต่างประเทศ เป็นต้น

3. Deep Universe จักรวาลที่ยากจะเข้าใจ

   • โดยสินทรัพย์ประเภทนี้ต้องตามเทรนด์ข่าว ศึกษาข้อมูลอย่างละเอียด ก่อนการลงทุน ทำความเข้าใจอย่างถ่องแท้ก่อนการลงทุน

   • ตัวอย่างสินทรัพย์ เช่น เทรนด์ธุรกิจรถไฟฟ้าพลังน้ำจองเทสล่า, การลงทุนในบริษัท Health Care ที่กำลังเติบโต, บริษัท Tech ที่เป็น SME เป็นต้น

สรุปจากงาน The money Forum 2024 บรรยายโดย คุณวีระพล บดีรัฐ First Senior Vice President

ทำความรู้จักกับจักรวาลการลงทุน

Question the Universe

How to know (เราควรเลือกลงทุนแบบไหน)

โดยคุณวีระพล ได้แบ่งสินทรัพย์การลงทุนออกเป็น 4 ประเภทตามรูปภาพล่าง

จะเห็นได้ว่าสินทรัพย์ทั้ง 4 กลุ่มนี้มีอัตราผลตอบแทนที่ไม่เท่ากัน

ดังนั้นคุณวีระพล จึงให้คำแนะนำว่า

• สินทรัพย์ประเภท Core เป็น Port หลักสามารถลงทุนได้อย่างยาวนานและไม่ควรเปลี่ยน Port ตามเทรนด์ต่างๆ

• เนื่องจากสินทรัพย์ประเภทนี้สามารถลงทุนได้ง่ายและมีสภาพคล่องสูง ควรมีสัดส่วนการลงทุนอยู่ที่ 70%

• และควรลงทุนในส่วนของสินทรัพย์ประเภท Sphere, Alternative, Thematic ประมาณ 30%

• เนื่องจากสินทรัพย์ทั้ง 3 กลุ่ม ต้องศึกษาข้อมูลและตามเทรนด์ข่าวอย่างละเอียด เนื่องจากสินทรัพย์มีความผันผวนตลอดเวลา ทำให้ถ้าลงทุนน้อยอาจจะให้เราขาดทุนไม่มากนัก

ตัวช่วยสำหรับการลงทุน

ในการลงทุนทุกครั้ง ถ้าเราลงทุนผ่านธนาคารหรือสถาบันการเงินต่างๆ จะมีตัวช่วยในการลงทุนนั่นก็คือ “แบบประเมินความเสี่ยง” ซึ่งสามารถช่วยให้เราประเมินว่าเราสามารถรับความเสี่ยงได้มากน้อยแค่ไหน โดยคำถามเหล่านี้จสามารถบอกได้ว่าเราเหมาะกับการลงทุนแบบไหน